top of page
  • GeneusDNA

กินเท่าไรก็ไม่อิ่ม... คุณอาจมี “ยีนอ้วน” ที่ทำให้อ้วนง่ายกว่าคนทั่วไป

“ยีนอ้วน” หรือยีนที่ทำให้คนบางคนอ้วนง่ายกว่าคนอื่น หลายท่านอาจเคยได้ยินมาบ้างแล้ว แต่เจ้า “ยีนอ้วน” นี้คือยีนอะไร ทำไมถึงได้ชื่อว่าเป็นยีนอ้วน มันทำให้เราอ้วนได้อย่างไร แล้วถ้าหากเรามียีนนี้จะมีวิธีใดบ้างที่ช่วยป้องกันไม่ให้อ้วน หรือช่วยลดผลกระทบของยีนอ้วนนี้ GeneusDNA จะพาคุณไปรู้จักกับ “ยีนอ้วน” ให้มากขึ้นค่ะ


พันธุกรรมหรือ DNA ของเราเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้เราแต่ละคนมีโอกาสที่จะเป็นโรคอ้วนมากน้อยแตกต่างกัน

“ยีนอ้วน” คืออะไร?

“แค่ดม ก็อ้วนแล้ว” อาจกลายเป็นคติประจำตัวของใครหลายๆ คน ไม่ให้เผลอใจไปกับอาหารหน้าตาน่าทานที่วางอยู่ตรงหน้าใช่ไหมคะ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า... ความอ้วนไม่ได้เกิดจากการกินน้อยกว่าหรือกินมากกว่าเท่านั้น ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลให้บางคนอ้วนง่าย ในขณะที่บางคน (เช่น เพื่อนบางคนของเรา) กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน และหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญนั้นก็คือ พันธุกรรม หรือ DNA ของเราแต่ละคนนั่นเองค่ะ


DNA เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของพันธุกรรมมนุษย์ เมื่อโมเลกุลของ DNA มาเรียงต่อกัน เราจะได้ชุดรหัสของ DNA ชุดหนึ่ง ซึ่งเราเรียกว่า ยีน (gene) นั่นเอง ยีนทำหน้าที่ควบคุมการสร้างโปรตีนในร่างกาย ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายของเราในทุกๆ ด้าน ด้วยเหตุนี้เองยีนจึงเป็นสิ่งที่กำหนดให้เราแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น รูปร่างหน้าตา การทำงานของร่างกาย การตอบสนองของร่างกายต่ออาหารหรือการออกกำลังกายแต่ละประเภท รวมถึงโอกาสที่จะเกิดโรคด้วยเช่นกัน


เจ้า “ยีนอ้วน” ที่เรากำลังพูดถึงนี้ มีชื่อว่า FTO หรือ Fat-mass-and-obesity-associated หลายท่านอาจจะพอคาดเดาได้จากชื่อแล้วว่ายีนนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับมวลไขมันและความอ้วนแน่นอน ยีนนี้เป็นหนึ่งใน “ยีนอ้วน” อันดับแรกๆ ที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ


โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่า คนที่มีการแปรผันของยีน FTO มีโอกาสที่จะมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI), สัดส่วนไขมันในร่างกาย (body fat percentage) และขนาดเส้นรอบเอวสูงกว่าคนที่ไม่ยีนนี้ โดยเฉพาะคนที่มียีนนี้และมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง คือ ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกาย และกินอาหารไขมันสูงเป็นประจำ


ผลการวิจัยทางวิทยาศาตร์ยังพบอีกว่า พันธุกรรมมีผลต่อค่า BMI หรือดัชนีมวลกายของเราสูงถึง 40-90% เลยทีเดียว นอกจากนี้คนที่มียีน FTO นี้ยังมีความโอกาสที่จะเป็นโรคอ้วนสูงกว่าคนทั่วไปถึง 1.67 เท่า


“ยีนอ้วน” ทำให้เราอ้วนได้อย่างไร?

ยีน FTO เป็นยีนที่มีอยู่มากในอวัยวะที่มีการเผาผลาญพลังงานสูง เช่น หัวใจ ไต และเนื้อเยื่อไขมัน ยีนนี้แสดงออกได้มากที่สุดในสมองของเรา โดยเฉพาะส่วนหนึ่งของสมองที่เรียกว่า “ไฮโปธาลามัส” (hypothalamus) ซึ่งเป็นสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความอยากอาหาร อุณหภูมิ ระบบประสาทอัตโนมัติ และระบบต่อมไร้ท่อ


นักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายถึงความสัมพันธ์ของยีน FTO กับความอ้วนว่า ยีน FTO มีบทบาทสำคัญในการควบคุมความอยากอาหาร และมีความเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย พลังงานที่ร่างกายได้รับ และความรู้สึกอิ่มที่ต่ำกว่าปกติ


ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า คนที่มียีนนี้มักจะมีความอยากอาหารมากกว่า และมักจะรู้สึกอิ่มยากหรืออิ่มช้ากว่าคนทั่วไปหลังจากรับประทานอาหาร ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะรับประทานอาหารในปริมาณสูงกว่าทั่วไป และมักจะเผลอรับประทานมากเกินไปได้ง่าย ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสสูงกว่าที่จะมีภาวะน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานและเป็นโรคอ้วนตามมา


โดยปกติแล้ว หากคุณมีความรู้สึกอิ่มตามปกติ ร่างกายจะส่งสัญญาณไปยังสมองเมื่อร่างกายได้รับอาหารในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว แต่สำหรับคนที่มีความรู้สึกอิ่มต่ำกว่าปกติ สมองจะได้รับสัญญาณนี้ช้า ซึ่งอาจทำให้คุณเริ่มรู้สึกอิ่มหลังจากรับประทานอาหารมากเกินไปแล้วนั่นเอง


จะรู้ได้อย่างไรว่ามี “ยีนอ้วน” หรือไม่?

ปัจจุบัน ชาวอเมริกันจำนวนกว่า 2 ใน 3 มีความรู้สึกอิ่มต่ำกว่าปกติ ในขณะเดียวกัน ยีน FTO ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินในประชากรกว่า 21% ของจำนวนประชากรชาวเอเชีย และในจำนวนประชากรเชื้อสายคอเคเชี่ยน 42%

คุณสามารถทราบได้ว่า คุณมีความรู้สึกอิ่มต่ำกว่าปกติหรือไม่ และมียีนซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคอ้วนหรือไม่ ด้วยชุดตรวจสารอาหารจากดีเอ็นเอ 18 ชนิด จาก GeneusDNA ที่จะช่วยให้ทราบว่าคุณมีปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรมที่จะเป็นโรคอ้วนหรือไม่ และมีวิธีลดความเสี่ยงจากพันธุกรรมนี้อย่างไร

นอกจากนี้คุณยังจะได้ทราบว่า ร่างกายของคุณต้องการสารอาหาร วิตามินแต่ละชนิด และสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายในปริมาณมากน้อยเพียงใด รวมถึงยังได้ทราบความไวต่ออาหารหลากหลายชนิด ซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกที่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง และหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณได้


ด้วยชุดตรวจนี้ คุณสามารถเก็บตัวอย่างของคุณได้ง่ายๆ ที่บ้าน แล้วส่งกลับมาให้ทางเราทำการวิเคราะห์ หลังจากการวิเคราะห์ DNA ของคุณเสร็จสิ้น คุณจะได้รับรายงานผลการวิเคราะห์ รวมถึงคำแนะนำเฉพาะบุคคลที่คุณสามาถนำไปปรับใช้และนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำได้ เพื่อลดความเสี่ยงหรือป้องกันภาวะดังกล่าว และเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน




สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับชุดตรวจสุขภาพจากดีเอ็นเอ 170+ รายการ ได้ที่นี่



ทางออกสำหรับคนที่มี “ยีนอ้วน”


สำหรับคนที่มีความรู้สึกอิ่มต่ำกว่าปกติ การรับประทานอย่างมีสติ (Mindful eating) สามารถช่วยได้ โดยสามารถเริ่มฝึกอย่างง่ายได้ก่อน เช่น พยายามรับประทานอาหารให้ช้าลง เคี้ยวอาหารให้ละเอียด ไม่ตักอาหารในปริมาณมากเกินไป และไม่รับประทานขณะมีสิ่งรบกวนภายนอก เช่น โทรศัพท์ หรือโทรทัศน์ เป็นต้น


การเลือกอาหารที่รับประทานก็สำคัญเช่นกัน พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานสูง อาหารไขมันสูง และอาหารที่มีสารอาหารต่ำที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รับประทานผักและผลไม้ที่มีไฟเบอร์และวิตามินที่จำเป็นแทนการรับประทานขนมขบเคี้ยวหรือขนมหวาน และควรออกกำลังกายเป็นประจำ


เอกสารอ้างอิง

(1) Hakanen M. et al. (2009). FTO genotype is associated with body mass index after the age of seven years but not with energy intake or leisure time physical activity. The Journal of Clinical Endocrinology and Metabolism 2009 Apr;94(4):1281-7.

(2) Wardle J. et al. (2008). Obesity associated genetic variation in FTO is associated with diminished satiety. The Journal of Clinical Endocrinology and Metabolism 2008 Sep;93(9):3640-3.

(3) Steemburgo T et al. (2013). The rs9939609 polymorphism in the FTO gene is associated with fat and fiber intakes in patients with type 2 diabetes. J Nutrigenet Nutrigenomics. 2013;6(2):97-106.

(4) Zheng Y. Et al. (2015). Dietary Fat Modifies the Effects of FTO Genotype on Changes in Insulin Sensitivity. J Nutr. 2015 May;145(5):977-82.

bottom of page