- Supitcha Kamonpakorn
ไขข้อข้องใจ! "แคลเซียม" ประเภทไหนเหมาะกับคุณ
หลาย ๆ คนรู้จัก "แคลเซียม" ว่ามีประโยชน์ต่อกระดูก แต่คุณรู้จักแคลเซียมกี่ประเภท? อาหารเสริมแต่ละชนิดใช้แคลเซียมชนิดที่แตกต่างกัน ตอนนี้คุณทานแคลเซียมเสริม ประเภทไหนอยู่? แคลเซียมคาร์บอเนต แคลเซียมซิเตรต แคลเซียมแอลทรีโอเนต แคลเซียมแลคเตท แคลเซียมแอลแอสคอร์เบตไดไฮเดรต หรือ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์
แล้วผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทานอยู่เหมาะกับคุณแน่หรือ? บทความนี้เรามีคำตอบมาให้คุณ
แคลเซียม มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา
แคลเซียม เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพื่อใช้ในการเพิ่มความสูงและส่งเสริมสุขภาพที่ดีของกระดูก และมีมวลกระดูกที่แข็งแรง นอกจากนี้แคลเซียมยังช่วยสนับสนุนการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้กระบวนการแข็งตัวของเลือดปกติ รวมถึงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

แม้ว่าแคลเซียมจะมีข้อดีหลายประการต่อสุขภาพของมนุษย์ แต่แคลเซียม แต่ละชนิดก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน
แคลเซียม ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ลำดับแรก มารู้จักกับ "แคลเซียมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร" ของคุณให้มากขึ้น
เนื่องจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแต่ละชนิดใช้แคลเซียมชนิดที่แตกต่างกัน ดังนั้น สิ่งสำคัญก็คือคุณควรรู้ว่าอาหารเสริมที่คุณรับประทานอยู่นั้นเป็นแคลเซียมชนิดใด การวิจัยพบว่าแคลเซียมแต่ละชนิดมีสัดส่วนของแคลเซียม และผลข้างเคียงต่อร่างกายที่แตกต่างกันออกไป ชนิดของแคลเซียมที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีดังนี้
แคลเซียมคาร์บอเนต
แคลเซียมคาร์บอเนต เป็นแคลเซียมรูปแบบที่ใช้มากที่สุดและราคาถูกที่สุด มีสัดส่วนของแคลเซียมต่อหน่วยสูงสุดถึง 40% แต่ข้อเสียที่สำคัญคือแคลเซียมคาร์บอเนตละลายน้ำยากมากและหากได้รับในปริมาณมากอาจนำไปสู่การเกิดหินปูนในหลอดเลือดได้ นอกจากนี้แคลเซียมคาร์บอเนตยังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไต อาการท้องผูกและท้องอืด
แคลเซียมซิเตรต
แคลเซียมซิเตรต เป็นแคลเซียมที่ละลายน้ำได้ดี และการดูดซึมจะเพิ่มขึ้นเมื่อทานหลังจากรับประทานอาหาร แคลเซียมซิเตรต มีสัดส่วนของแคลเซียมต่อหน่วยสูงเป็นอันดับสอง (21%) และพบว่าความเสี่ยงของการเกิดหินปูนในหลอดเลือดอาการท้องผูกและการเกิดนิ่วในไตลดลง มักใช้ในผู้ที่มีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร

แคลเซียมแอลทรีโอเนต
แคลเซียมแอลทรีโอเนต เป็นแคลเซียมที่สกัดมาจากพืช 100% โดยสกัดจากข้าวโพด มีสารพฤกษเคมีและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคลำไส้ใหญ่และทวารหนักเมื่อเทียบกับแคลเซียมจากสัตว์ จากการวิจัยพบว่าแคลเซียมแอลทรีโอเนตกระตุ้นการดูดซึมแมกนีเซียม ดังนั้นจึงช่วยลดอาการท้องผูกได้
การดูดซึมของแคลเซียมแอลทรีโอเนต มากกว่าแคลเซียมรูปแบบอื่น เช่น แคลเซียมคาร์บอเนตและแคลเซียมซิเตรต ถึง 8 เท่า
ข้อดี อีกประการหนึ่งที่แคลเซียมแอลทรีโอเนตแตกต่างจากแคลเซียมรูปแบบอื่น ๆ อย่างเด่นชัดคือลดอาการท้องผูกและท้องอืด นอกจากนี้ งานวิจัยยังยืนยันว่าแคลเซียมแอลทรีโอเนตช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดหินปูนในหลอดเลือดได้ดีเมื่อเปรียบเทียบกับแคลเซียมรูปแบบอื่น อย่างไรก็ตามแคลเซียมชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับชนิดอื่นๆ
แคลเซียมแอลทรีโอเนต ช่วยลดอาการท้องผูกและท้องอืด

แคลเซียมแอลทรีโอเนต ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดหินปูนในหลอดเลือดได้ดีเมื่อเปรียบเทียบกับแคลเซียมรูปแบบอื่น
แคลเซียมแลคเตท
แคลเซียมแลคเตท เป็นแคลเซียมรูปแบบที่ดูดซึมได้ดีและมีอยู่ในนม แม้ว่าแคลเซียมรูปแบบนี้จะมีสัดส่วนของแคลเซียมต่อหน่วยคือ 18.3% แต่เนื่องจากแคลเซียมแลคเตทสกัดจากนมจึงอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้นมหรือน้ำตาลแลคโตส การดูดซึมแคลเซียมแลคเตทจะดีที่สุดเมื่อรับประทานพร้อมอาหาร แต่ผลข้างเคียงที่พบได้คือ คลื่นไส้ ท้องผูก แคลเซียมในเลือดสูง สับสนและเหนื่อยล้า
แคลเซียมแอลแอสคอร์เบตไดไฮเดรต
แคลเซียมแอลแอสคอร์เบตไดไฮเดรต เป็นแคลเซียมที่ประกอบด้วยแคลเซียมกับวิตามินซี มีสัดส่วนของแคลเซียมต่อหน่วยน้อยที่สุดเพียง 9.4%
นอกจากนี้แคลเซียมแอลแอสคอร์เบตไดไฮเดรตยังจำเป็นสำหรับการสร้างกระดูกอ่อนและมักใช้เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนชนิดที่ 2 อย่างไรก็ตาม แต่ผลข้างเคียงที่พบได้คือ ท้องผูก คลื่นไส้ และระดับแคลเซียมในเลือดสูงได้
แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์
แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ เป็นสารที่คงตัวที่สุดภายใต้สภาวะรุนแรง เช่น อุณหภูมิสูง การเปลี่ยนแปลงของ pH และของเหลวในร่างกาย โดยแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ช่วยเสริมสร้างกระดูกและมักใช้ในการรักษาโรคกระดูกพรุน
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 1500 มก. ต่อวัน เนื่องจากปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก อาหารไม่ย่อย มีลมในท้องและท้องอืดได้
แคลเซียมใน Jelly CARE GRO+
แคลเซียมใน Jelly CARE GRO+ มีแคลเซียมแอลทรีโอเนตมากถึง 1,000 มก. เทียบเท่ากับผักโขมหนึ่งจานใหญ่ (100 มก.) เราคัดสรรแคลเซียมรูปแบบที่ดีที่สุดมาเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ที่สำคัญต่อการเสริมสร้างความสูงที่สมบูรณ์แบบและกระดูกที่แข็งแรง เช่น CBP (แอคทีฟโปรตีนจาก colostrum) วิตามินดี3 และวิตามินเค2
แคลเซียมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
เพื่อส่งเสริมความสูงและเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก
แต่ละรูปแบบแตกต่างกันอย่างไร ชนิดใดเหมาะสมกับคุณมากที่สุด
ตารางเปรียบเทียบสัดส่วนของแคลเซียมต่อหน่วย ข้อดี ข้อเสีย ของแคลเซียมแต่ละชนิดที่พบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ชนิด | สัดส่วนของแคลเซียมต่อหน่วย | ข้อดี | ข้อเสีย |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ด้วยความห่วงใยจากทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจาก Jelly CARE GRO+
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Jelly CARE GRO+
ได้รับการอนุมัติจากอย.เลขที่ 12-1-25864-5-0029
วิตามินรูปแบบเจลลี่ ตัวช่วยเพิ่มความสูง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
นวัตกรรมทางการแพทย์ที่สนับสนุนส่วนสูงสมวัยและสุขภาพที่แข็งแรงสำหรับลูกรักของคุณ
References
Straub, D. A. (2007). Calcium supplementation in clinical practice: a review of forms, doses, and indications. Nutrition in clinical practice, 22(3), 286-296.
Kenny, A. M., Prestwood, K. M., Biskup, B., Robbins, B., Zayas, E., Kleppinger, A., ... & Raisz, L. G. (2004). Comparison of the effects of calcium loading with calcium citrate or calcium carbonate on bone turnover in postmenopausal women. Osteoporosis international, 15(4), 290-294.
Hu, X., Cheng, H., He, S., & Zhai, G. (2018). Progress in the Study of Calcium Formulations. Res. Rev. Drug Deliv., 2, 1-12.
Straub, D. A. (2007). Calcium supplementation in clinical practice: a review of forms, doses, and indications. Nutrition in clinical practice, 22(3), 286-296.
European Food Safety Authority (EFSA). (2009). Calcium ascorbate, magnesium ascorbate and zinc ascorbate added for nutritional purposes in food supplements. EFSA Journal, 7(3), 994.